วันจันทร์, พฤศจิกายน 20, 2549

ยางเขียว ยางขาว...

วันนี้จะมาตอบข้อสงสัยที่ว่า ยางตันมีสี
หมายถึงยางตันที่เนื้อไม่ใช่สีดำ สามารถหล่อได้หรือไม่...

ขอตอบว่า หล่อได้ครับ
ยางตันทุกชนิดที่ไม่ทนน้ำมัน สามารถหล่อได้แน่นอนครับ
เพราะทางเราก็ทำอยู่ประจำ แต่ว่าเราจะใส่ดอกยางสีดำนะครับ แบบนี้...



ภาพที่เห็นคือขั้นตอนการเตรียมหน้ายาง ก่อนติดเนื้อยางใหม่เข้าไปครับ



จะเห็นว่ายางนี้มีเนื้อยางสีเขียวครับ
ในประเทศไทย ที่เห็นๆกันบ่อยๆ น่าจะมีสีเขียว กับสีขาวครับ

อย่างเส้นนี้พอหล่อเสร็จ ก็จะได้ดอกยางสีดำ บนยางสีเขียวครับ
ถ้าเป็นลูกค้าที่เอาไปใช้เอง ก็ไม่ค่อยมีปัญหาหรอกครับ

จะมีปัญหากับคนที่ซื้อไปขายต่อ เพราะหน้าตายางจะประหลาด
ดอกสีหนึ่ง ตัวโครงยางมาอีกสีหนึ่ง

แต่รับรองได้ครับว่าไม่มีปัญหาในด้านการใช้งานแน่นอน
เพราะทำมาหลายปีแล้ว และก็ไม่พบความแตกต่าง
ระหว่างการหล่อยางสีดำ กับยางสีอื่นๆ ด้วยเนื้อยางดำเลยครับ....

แต่ถ้าคิดว่ามันแปลกจริงๆ ทางเราจะทายางน้ำสีดำปิดสีให้ได้นิดหน่อยครับ

ส่วนคำถามที่ว่า ทำไมไม่หล่อยางสีเดียวกับโครงยางไปเลย
ก็ต้องตอบว่า ถ้าจะทำ ก็ต้องลงทุนเพิ่มครับ
เพราะยางสีพวกนี้ เขาเอาไปใช้ในโรงงานอาหาร
จะให้มีสีดำปะปนไปไม่ได้เลย ซึ่งยากมากสำหรับโรงงานเล็กๆที่จะทำ

แต่จะบอกให้ว่า ยางสีๆ ส่วนใหญ่
เวลาสึก จะแตกเป็นก้อนๆ ไม่ใช่ค่อยๆสึกไปเหมือนยางสีดำครับ

วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 16, 2549

ยางตันมีรู?

วันนี้ขอพูดถึง ยางตันมีรูครับ...

ไม่ใช่รูแบบที่เกิดเพราะไปขับรถวิ่งเหยียบเหล็กมานะครับ
แต่เป็นรูที่เกิดแบบตั้งใจจากผู้ผลิตเลยครับ

เช่นดังภาพนี้...



คือจะเจาะรูกลมๆ หลายๆรู รอบโครงยาง
ในยางบางขนาด จะมีรูสองแถวด้วยซ้ำไป

รูเหล่านี้มีเพื่อทำให้ยางตันมีคุณสมบัติยืดหยุ่นคล้ายยางลมครับ
คือจะมีการยุบตัว ไม่กระด้างเวลายกของ คล้ายยางแบบใช้ยางใน
แต่ก็ได้ความทนทานต่อการเจาะทะลุ และอายุการใช้งานยาวนานแบบยางตัน

เรียกว่าเหมือนจะมีแต่ข้อดี แต่ข้อเสียมันก็มีเช่นกันครับ

ข้อแรกแน่ๆ คือ ยางประเภทนี้ มีใช้กันน้อยครับ ราคาจึงโดนบวกแพงกว่า

ข้อต่อมา สำคัญมากครับ คือยางพวกนี้ นำมาหล่อดอกไม่ได้ครับ
เพราะด้วยความที่โครงยางมีรู เวลานำเข้าแม่พิมพ์ที่อัดด้วยแรงกดสูง
ยางจะบิดเบี้ยว ทำให้ยางเสียรูปทรงเวลาทำออกมาครับ

และจะเอายางเ้ข้าไปอุดรูที่เขาทำไว้ ให้กลายเป็นยางตัน
อันนี้เขาก็ไม่ทำกันนะครับ มันลำบากเกินไป

ก็เอามาให้ดูกันเล่นๆครับ ว่ามันมีของแบบนี้ด้วย
และทางเราก็เอามาหล่อดอกไม่ได้ครับ เสียดายเหมือนกัน...

วันจันทร์, พฤศจิกายน 13, 2549

ยางไม่สุก

วันนี้ขอพูดถึงปัญหา ยางไม่สุก ครับ

ที่ใช้คำว่า "สุก" เพราะขั้นตอนการทำยางหล่อ
ไม่ว่าจะหล่อร้อน หรือหล่อเย็น ก็ต้องผ่านความร้อนทั้งนั้น

และถ้าเราให้ความร้อนเพื่อทำให้ยางเปลี่ยนสภาพ
จากนิ่มๆเหมือนดินน้ำมัน มาแข็งตัว และคงตัวเหมือนยางลบ
ได้ไม่พอตามที่ควรจะเป็น ยางก็จะเกิดสภาพที่เรียกว่า ไม่สุก นั่นเองครับ...

ซึ่งยางไม่สุก ก็จะมีสภาพอย่างที่บอกไป คือเหมือนดินน้ำมัน
จะนิ่มๆ เหนียวๆ เหมือนฟองน้ำคลุกกาว
และทำให้หน้ายางไม่ติดกับโครงยาง ทำให้ยางล่อนเป็นลำดับต่อไป

วันนี้มีตัวอย่างหลุดมาให้ดูพอดีครับ
ไปได้ยางลูกค้า ที่ไปหล่อเจ้าอื่น แล้วโมเมว่าเป็นของโรงงานเรา
ดีนะที่ดูลักษณะงาน และชื่อยี่ห้อที่ด้านแก้มยางแล้ว ไม่ใช่ของเราครับ



เห็นรอยบวม แยก นั่นไหมครับ
นั่นคือจุดที่หน้ายางแยกชั้นออกมา
ถ้าลองเอานิ้วจิ้มเข้าไปดู จะรู้สึกว่านิ่มๆ และเหนียวๆ

และยางนี้ก็จะใช้ต่อไม่ได้ เพราะมันจะวิ่งแล้วสะดุด
หรืออาจจะหน้ายางหลุดออกมาทั้งวงได้เลยครับ

รู้กันแล้วนะครับ ว่ายางไม่สุก มีลักษณะพื้นฐานแบบใด...

วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 09, 2549

ระวังยางตันดอกห่าง

เรื่องของ คนซื้อไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ซื้อ อีกเรื่องที่พบบ่อยคือ

ใช้ยางที่ถูก แต่ใช้งานไม่ค่อยจะได้เรื่อง...

ก็เป็นปัญหาที่ว่า คนซื้อไม่ได้มาขับรถ
ส่วนคนที่ขับรถ ก็ไม่สามารถไปบังคับคนจ่ายเงินได้

เช่นยางตันลายดอกห่างมากๆ แบบนี้...



นี่คือยางที่ลูกค้าถอดออกมาหล่อนะครับ
คงจะสงสัยกันว่าดอกยังเหลืออยู่มาก ทำไมรีบถอดยางออก

นั่นเป็นเพราะด้วยดอกยางที่เป็นก้อนใหญ่ๆ และช่องห่างๆแบบนี้
เวลาเอาไปใส่รถ แล้ววิ่งใช้งาน รถจะวิ่งแบบเขยกครับ

นั่นคือจะวิ่งแบบสั่นขึ้นลงตลอดเวลา ยิ่งวิ่งเร็วยิ่งสั่นแรง เพราะร่องดอกที่ใหญ่นั่นเอง
ทำให้ไม่สามารถนำไปใช้ยกงานที่ต้องการความนิ่ง หรือความแม่นยำในการยกได้

และสุดท้าย ยางที่อุตส่าห์ดีใจที่ซื้อมาถูก
กลับใช้ไม่ได้ แล้วก็ต้องถอดออกมาเปลี่ยนเป็นลายดอกมาตรฐาน

เสียเงิน เสียใจ เสียเวลา อีกเช่นเคยครับ

เป็นเรื่องการเอาเปรียบอย่างแท้ๆเลย
เพราะยิ่งดอกห่าง ผู้ผลิตก็ยิ่งใช้เนื้อยางน้อยลง

คนที่ออกแบบลายดอกห่างๆ ลึกๆ แบบนี้ออกมาได้
ผมถือว่า เขาไร้จรรยาบรรณ และทรยศต่ออาชีพอย่างที่สุดครับ

วันพุธ, พฤศจิกายน 08, 2549

ยางแกะดอก ย้อมแมวขาย

กลเม็ดแหกตาผู้ซื้ออีกอย่างที่นิยมมาก คือการแกะดอกครับ

แกะดอก คือการทำให้ดอกยางที่เหลืออยู่ ดูเหมือนว่าเหลือเยอะกว่าความเป็นจริง
โดยใช้เครื่องแซะร่องไฟฟ้า แซะไปตามแนวดอกยางเดิม เพื่อให้ร่องดอกลึกขึ้น



ทำเพื่ออะไรหรือครับ ทำเพื่อขายยางแบบที่เรียกว่า ยางเปอร์เซ็นต์ ไงครับ

ยางเปอร์เซ็นต์ คือยางมือสองที่ตั้งราคาขายตามปริมาณดอกยางที่เหลือ
ดังนั้น ถ้ามันเหลือน้อย ก็แกะให้ดอกมันลึกขึ้นเสียเลย แล้วก็ขายได้แพงขึ้นอีก

เช่นตัวอย่างนี้ ลองเปรียบเทียบยางตันหมดดอกแล้วสองเส้นนี้นะครับ



จะเห็นได้ว่า ยางเส้นด้านซ้ายเหลือน้อยกว่า เรียกว่าใช้ไปมากกว่านั่นเอง
แต่ลองหันมาดูด้านหน้ายางครับ



ด้านขวา คือยางเส้นเล็กนั้นครับ
จะเห็นได้ว่า ลายดอกยางยังชัดเป๊ะอยู่เลย

ดูเหมือนจะดีนะครับ แต่ลองคิดดีๆ ว่าไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ
ถ้าการแกะดอกมันดีและปลอดภัยแน่นอน
ทำไมไม่มีศูนย์รับแกะดอกเป็นเรื่องเป็นราวไปเสียเลย

เพราะการแกะดอกหมายถึงการแงะไปบนเนื้อยางส่วนที่ควรจะเป็นฐานดอกยาง
เป็นส่วนที่รองรับแรงอัดของลมในยางลม
และเป็นส่วนกระจายน้ำหนักของยางตัน

แล้วถ้าแงะลงไป ก็หมายความว่า เนื้อฐานจะบางลง
ในยางลม ก็อาจจะทำให้ยางระเบิดได้ง่ายขึ้น
ส่วนในยางตัน ก็จะทำให้คุณใช้ยางมากเกินไป จนทำให้โครงเสีย นำมาหล่อดอกอีกไม่ได้

เหมือนตัวอย่างยางตันที่ผมยกมาให้ดูนั่นล่ะครับ
มันเล็กไปหน่อยถ้าจะเอามาหล่อ เพื่อเอาไปใช้อย่างปลอดภัย

ดังนั้น ถ้าจะซื้อยางเปอร์เซ็นต์ ดูให้ดีว่าเป็นยางเปอร์เซ็นต์แท้
หรือเป็นแค่ยางแกะดอก แล้วเอามาโก่งราคาขาย

นอกจากจะต้องจ่ายแพงโดยไม่จำเป็น แล้วยังต้องมาเจ็บใจด้วยอีกต่างหากครับ

วันเสาร์, พฤศจิกายน 04, 2549

พวกเราอยู่ในมหาสมุทรสีแดง

เคยอ่านหนังสือชื่อ Blue Ocean Strategy บ้างหรือเปล่าครับ...

เป็นหนังสือเกี่ยวกับการตลาดยุคใหม่
ที่เปรียบเทียบตลาดเก่าว่าเป็น Read Ocean

คือตลาดที่ต่างคนต่างผลิตสินค้าเหมือนๆกันออกมาแข่งขันกันเอง
จนในที่สุด ลูกค้า ก็มีอำนาจเหนือตลาด
ทำให้ผู้ผลิตต้องแก่งแย่งลูกค้าด้วยการลดราคาสินค้า
เพราะลูกค้าต้องการซื้อแต่ของถูกๆ

ทำให้สินค้าเริ่มมีคุณภาพแย่ลงเรื่อยๆ
และเมื่อลดราคามากๆ ผู้ผลิตก็เริ่มขาดทุน และต้องเลิกกิจการไป

และจะมีผู้ผลิตหน้าใหม่โผล่ขึ้นมาตกเข้าสู่วังวนอีกครั้ง ไม่สิ้นสุด...

นั่นคือภาพคร่าวๆ ของ Red Ocean ครับ
และนั่นก็คือสภาพที่แท้จริง ของตลาดในไทยตอนนี้ด้วย

ไม่เชื่อลองหันไปมองรอบๆ สิครับ
ตอนนี้มีแต่การแข่งกันลดราคา มีแต่ห้างขายของถูกเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด
สุดท้าย ผลกระทบจะตกอยู่ที่เราเอง
นั่นคือ จะได้ใช้แต่ของห่วยๆ เพราะเราเลือกเอง...

แต่ เรากำลังพูดถึง Blue Ocean ครับ

ทางรอดของผู้ประกอบการ คือพยายามโดดเข้าสู่มหาสมุทรสีน้ำเงินให้ได้

โดยพยายามสร้างมูลค้าเพิ่มให้กับสินค้าเดิมๆ
เช่นเพิ่มสี เพิ่มกลิ่น เพิ่มรส ปรับปรุงบรรจุภัณฑ์
อย่างที่เราพบในสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งหลาย

ทั้งที่จริงๆ แล้ว พื้นฐานของสินค้่า ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย
แต่ก็สามารถเพิ่มราคา และกระตุ้นยอดซื้อได้

ยางรถยนต์ใหม่ อย่างมิชลิน ยังออกสูตรประหยัดพลังงาน
นั่นก็ถือเป็นการทำมูลค่าเพิ่มอย่างหนึ่งเช่นกัน
แต่จะจริงไหม และจะได้ผลไหมกับตลาดคนไทย นั่นก็อีกเรื่อง

แต่ในโลกของยางหล่อดอก ต่างออกไปครับ
เพราะลูกค้าที่ใช้ยางหล่อดอก จุดแรกที่มอง คือความประหยัด

เนื่องด้วยยางหล่อดอก คือการซ่อมยางชนิดหนึ่งนั่นเอง
การซ่อม ย่อมถูกกว่าซื้อใหม่อยู่แล้ว
และลูกค้าก็ไม่ค่อยสนใจด้วยว่า ซ่อมดีไม่ดีแค่ไหน

เหมือนซ่อมโทรทัศน์ เอาแค่ซ่อมแล้วเปิดดูได้ก็พอ
เขาจะใช้อะไหล่เก่า ใช้ของแงะจากซากเครื่อง
หรือซ่อมแบบชุ่ยๆ ก็ไม่สนใจ เพราะเปิดแล้วติด เป็นใช้ได้...

นั่นแหละครับ คือลักษณะส่วนมากของลูกค้ายางหล่อคนไทย....

ทำให้การกระโจนเข้าสู่ Blue Ocean ด้วยคุณภาพงาน และการผลิต
ทำได้ยาก จนอาจจะถึงกับเป็นไปไม่ได้

เพราะถึงจะทำตอนนี้ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคส่วนใหญ่ได้นั่นเองครับ...