ใช้ยางจนพัง แล้วจะโทษใครดี...

เจอยางอาการสาหัสครับ...

มาเป็นชุดเลย 6 เส้น ขนาด 825-15
คาดว่าจะเป็นรถใหญ่มาก ใส่คู่หน้า 4 เส้น หลัง 2 เส้น

ลูกค้าเอามาถามว่า อาการแบบนี้ส่งเคลมได้มั๊ย...



และถ้ายังจำกันได้ เงื่อนไขของการเคลมยางคือ หน้ายางหลุดร่อนอันเกิดจากการผลิต
ดูจากสภาพภายนอก จะเห็นได้ว่า ดอกยางยังอยู่ดีครับ

แต่ที่เสียหายมากคือด้านข้าง และมุมของดอกยาง...

มาดูใกล้ๆ



แผลฉีกลึก เหมือนเอาไปวิ่งเหยียบพื้นที่ไม่เรียบ หรือของมีคมครับ

ถ้านี่ยังไม่แรงพอ ลองดูอีกเส้นครับ



ข้างยางหายไปรอบเส้นเลยทีเดียว

ลองมาดูใกล้ๆ กัน



เจอแบบนี้ ช่างทำหน้าเบ้แล้วครับ
เพราะไม่รู้ว่าอาการแบบนี้จะเอามาหล่อได้หรือเปล่า

ต้องลองเช็คดู และอาจจะต้องเอาเข้าเครื่องขูดเนื้อยางออกเสียหน่อยก่อน
ถึงจะบอกได้ว่า รอยแตกเข้าไปลึกแค่ไหน
และอยู่ในระดับที่พอจะซ่อมแซมหล่อยางหุ้มได้หรือไม่

.

ก็เอามาให้ดูกันเล่นๆครับ

ลองสังเกตดูนะครับ ถ้ายางรถโฟล์คลิฟต์ของคุณมีอาการแบบนี้
แต่พื้นที่รถวิ่งก็เรียบเป็นปกติดี

แสดงว่าปัญหาอาจจะอยู่ที่
1. รถใช้งานเกินกำลัง อาจจะเอาไปยกของหนักเกินไป
2. คนขับมีปัญหา คือขับรถไม่ระวัง ชอบวิ่งไปเบียด หรือปีนไหล่ทาง หรือพื้นขรุขระ

ลองดูนะครับ ผมเห็นแล้วเสียดายโครงยางจริงๆ...

ดอกยาง กับถนนลื่น...

ช่วงนี้มรสุมเข้า ประเทศไทยมีฝนตกทั่วไปทุกภาคเลยนะครับ

โดยเฉพาะช่วงสัปดาห์นี้ ฝนตกพรำๆตลอดทั้งวัน
นอกจากจะสร้างปัญหาให้ไม่อยากเดินทางไปไหน
อาจจะไม่สบาย แล้วยังจะสร้างปัญหาอีกอย่างคือ ถนนจะลื่นครับ

ถ้าพูดถึงถนนลื่น ทั่วไปเราก็มักจะนึกว่าเป็นเพราะยางไม่มีดอก
แต่ข้อความนี้จะเป็นจริงเฉพาะเวลาถนน "เปียก" เท่านั้นครับ

ในภาวะที่ถนนและยางแห้ง
ยิ่งยางมีผิวสัมผัสกับถนนมากขึ้นเท่าใด
ก็ยิ่งจะยึดเกาะถนนได้ดีมากขึ้นเท่านั้น

ให้ลองนึกภาพของยางรถแข่ง F-1 หรือยางลบที่เราใช้ลบดินสอก็ได้ครับ
เห็นไหมครับว่า ยิ่งหน้าเรียบ และกดแรงเท่าไหร่ ก็ยิ่งหนึบ ยิ่งยึดเกาะดีเท่านั้น



แล้วถ้าเป็นเช่นนั้น เราจะมีดอกยางไว้เพื่ออะไร?

นั่นก็เพราะเราไม่ได้ใช้ยางเพื่อการแข่งขันทางเรียบไงครับ
ในชีวิตประจำวัน เราต้องเจอทั้งถนนเรียบ ขรุขระ และถนนเปียกอย่างเวลาฝนตก

ซึ่งเวลาฝนตก และยางมีการหมุนอย่างเร็วบนถนน
น้ำจะกลายสภาพเป็นเหมือนฟิล์มบางๆ อยู่ระหว่างล้อกับพื้นถนน
ทำให้ความเสียดทานลดลงอย่างมาก และทำให้รถไถลได้

ทดสอบได้โดยลองเอายางลบถูบนกระจก แล้วหยดน้ำเปรียบเทียบกันดูครับ

ดอกยางจึงเกิดขึ้นเพื่อรีดน้ำออกจากหน้ายางให้เร็วที่สุด
โดยร่องของหน้ายาง จะทำหน้าที่รับน้ำที่โดนเบียดจากส่วนหน้ายาง
และพามันออกไปตามร่องยางตามการหมุน



นี่ก็คือคำตอบว่าทำไมในหน้าฝน
เราจึงควรดูแลเอาใจใส่ยางของเรามากขึ้นอีกนิด

ถ้าเห็นว่าดอกยางมันเหลือน้อยแล้ว ก็ควรจะเปลี่ยนครับ
อย่างน้อยก็คู่หลังหรือหน้าก็ยังดี เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง

และถ้ายิ่งเป็นยางรถบรรทุกแบบผ้าใบ
ถ้าใช้พอประมาณ พอหมดดอกแล้วก็เอามาหล่อดอกใหม่
ไม่ใช้จนดอกเกลี้ยงไปถึงชั้นผ้าใบ ยุ่ยออกมาเป็นชั้นๆ

ก็ช่วยเราประหยัดค่ายางใหม่ไปได้เยอะครับ

FAQ

ส่วนนี้ขอเอาไว้เก็บปัญหาที่พบบ่อยๆ จะนำมาตอบเอาไว้สั้นๆที่นี่นะครับ

- ยางหล่อ ใช้ทนเหมือนยางใหม่หรือไม่?

ตอบ : ไม่ครับ ถึงยางหล่อจะทำจากยางธรรมชาติ แต่ก็มีส่วนผสมบางอย่างที่ต่างจากยางใหม่
ดังนั้นจึงไม่ทนทานเท่ายางใหม่ แต่จากการเก็บสถิติ ระยะเวลาการใช้งาน จะอยู่ทีประมาณ 80%-90% ของยางใหม่ครับ แล้วแต่่การใช้งาน สภาพพื้นที่วิ่ง ฯลฯ

- ยางชนิดใด ที่สามารถนำมาหล่อดอกใหม่ได้บ้าง?

ยางรถ Fork Lift : สามารถหล่อได้เฉพาะยางตัน หรือ Solid Tyre เท่านั้นครับ ดูง่ายๆ คือยางที่ไม่ต้องใส่ยางในนั่นเอง สามารถหล่อได้ทุกยี่ห้อครับ แต่ทางเราไม่รับหล่อยางสีอื่นนอกจากสีดำครับ ถ้าให้โครงสีขาวมา เราก็จะหล่อหุ้มเป็นสีดำครับ

- ทำไมบางครั้งยางถึงหล่อไม่ได้?

ไม่ใช่ว่ายางที่ใช้แล้วทุกเส้นจะสามารถหล่อได้ ถ้ายางถูกใช้มากเกินไป แตกร้าวลึกถึงแกนใน หรือแช่ในน้ำมันจนเนื้อยางเปื่อยยุ่ย ก็จะไม่สามารถหล่อดอกได้ครับ

ไม่มีใครตอบได้ดีกว่าช่างที่เป็นคนทำ ดังนั้นเพื่อความมั่นใจ ทางเราจึงขอตรวจสภาพยางก่อนทำการหล่อดอกทุกเส้นเสมอ