คือแบบผ้าใบ กับแบบใยเหล็ก
วิธีดูง่ายๆ ก็ให้ดูที่ด้านข้างยางครับ บริเวณที่บอกขนาดของยางนั่นเอง
จะมีระบุชนิดของวัสดุขึ้นโครงยางเอาไว้
ถ้าเป็นแบบเส้นลวด ก็จะใช้คำว่า RADIAL ที่เราเรียกกันติดปากว่า ยางเรเดียลนั่นล่ะครับ
แต่ถ้าเป็นผ้าใบ จะใช้คำว่า NYLON และจะระบุจำนวนชั้นของผ้าใบเอาไว้ด้วย
ขอพูดถึงยางชนิดผ้าใบนะครับ

ดังตังอย่างในภาพถ่ายจากข้างยาง
บรรทัดแรก คือขนาดของยาง 9.00 ขอบกระทะล้อ 20 นิ้ว
บรรทัดที่สอง บอกว่าเป็นแบบผ้าใบ 14 ชั้น
และบรรทัดสุดท้าย บอกว่าใช้วัสดุขึ้นโครงเป็นผ้าใบนั่นเองครับ
ซึ่งจำนวนชั้นของผ้าใบก็จะแปรผันกับความแข็งและทนของยางครับ
ซึ่งผ้าใบจำนวนชั้นมากกว่า ก็จะมีความทนทานกว่า รับน้ำหนักได้มากกว่า
แตกยากกว่า รวมถึงแพงกว่าด้วยครับ
ซึ่งการจะนำยางชนิดผ้าใบมาหล่อนั้น ขอให้ใช้อย่าถึงชั้นผ้าใบนะครับ
ดังตัวอย่างนี้...

ใช้ยางเสียจนเกินคุ้ม ผ้าใบทะลุเข้าไปราว 3-5 ชั้นแล้ว
คิดดูสิครับ ผ้าใบยางมีอยู่ 12-16 ชั้น หายไปแล้วเกือบครึ่ง
กับแรงดันลมยางที่เติมกันบางทีร่วม 80-100 ปอนด์
โอกาสเกิดยางระเบิดสูงจนน่ากลัวเลยล่ะครับ
ดังนั้น ควรจะตรวจตรายางรถให้ดีนะครับ อย่าใช้จนเห็นผ้าใบแบบนี้
นอกจากจะทำให้เราปลอดภัยแล้ว ยางที่เนื้อหน้ายางยังดีอยู่
ไม่มีแผลทะลุใหญ่กว่าแผลตะปู และไม่มีแผลลึกที่ด้านข้าง(แก้ม)ยาง
ก็สามารถเอามาหล่อใหม่ใช้ได้อีก อย่างน้อย 2 รอบด้วยครับ
เรียกว่าทั้งปลอดภัย ทั้งประหยัดเลยล่ะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น